การติดตั้งก๊าซ NGV มีผลกระทบต่อบ่าวาล์วมากกว่าน้ำมันเบนซิน
เพราะว่าการเผาใหม้ของน้ำมันเบนซินมีเขม่ามากกว่าก๊าซ NGV ซึ่งเขม่าที่มาจากการเผาใหม้ของน้ำมันเบนซิน จะช่วยรองรับ การสึกหร่อของบ่าวาล์วได้ ซึ่งการสึกหรอจากการติดตั้งก๊าซ NGV จะสึกหรอเร็วขึ้นประมาณ 2 เท่า
ผลของการสึกหรอของบ่าวาล์ว
คือจะทำให้ระยะห่างของก้านวาล์วลดลงเร็วกว่าปกติ จึงต้องปรับตั้งระยะห่างก้านวาล์วบ่อยกว่าปกติสองเท่า คือปรับตั้งระยะห่างดังกล่าวทุก 40,000 กม. แทนที่จะเป็นทุก 80,000 กม. อายุของบ่าวาล์วแทนที่จะเป็น 400,000 กม. ก็เหลือ 200,000 กม. ซึ่งก็มากพอที่เจ้าของรถไม่ต้องห่วง และเมื่อบ่าวาล์วสึกหรอเต็มที่แล้วก็เปลี่ยนได้ในราคาไม่แพง (อย่างมากก็เป็นหมื่น ปกติจะต่ำกว่าหมื่น) คิดเป็นค่าสึกหรอ 5 สตางค์ต่อกิโลเมตรในส่วนของบ่าวาล์ว แทนที่จะเป็น 3 สตางค์ถ้าใช้น้ำมันเบนซิน
อัตราการสึกหรอของบ่าวาล์วสามารถลงได้หากใช้ความเร็วต่ำ หรือวิ่งใช้งานในเมือง
และสลับใช้น้ำมันเบนซินบ้าง ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อการใช้ก๊าซ 10 ชั่วโมง
สรุปว่าไม่เห็นว่าจะเป็นอุปสรรคในการใช้รถมากนัก
เพราะการสึกหรอของบ่าวาล์วไม่ได้มีผลต่อสมรรถนะเครื่องยนต์และเป็นการสึกหรอที่
ต้องเกิดอยู่แล้วแต่อาจจะเร็วขึ้นถึงสองเท่าหากใช้รถแบบไม่ถนอม
แต่ถ้าใช้อย่างระวังก็แทบจะไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหาเพราะกว่าจะต้องเปลี่ยน (สวม)
บ่าวาล์วใหม่ก็ต้องใช้รถไปแล้ว 200,000 กม.
อย่างไรก็ตามต้องหมั่นให้ช่างปรับตั้งระยะห่างวาล์วทุก 40,000 กม.
ที่มา : เว็บไซด์ของ ปตท. ^^
No comments:
Post a Comment